วันพุธที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2559

สบู่มะขาม (naturalherbalsoap)

บทที่ 1
บทนำ
ที่มาและความสำคัญของโครงงาน
       ในปัจจุบันเชื้อโรคจำนวนมากที่แพร่กระจายอยู่รอบตัวเรา ซึ่งนับว่าเป็นปัญหาที่ยากต่อการควบคุมหรือป้องกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคระบบทางเดินหายใจ ถือเป็นปัญหาสาธารณสุขมากที่สุดในปัจจุบัน ปัญหาเหล่านี้ทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ หากมีวิธีป้องกันตนเอง และครอบครัว ตลอดจนคนในชุมชนในเบื้องต้น ตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขที่ว่า กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ’’ แล้วนั้น
สบู่มะขามนมสดน้ำผึ้ง อาศัยกระบวนการความคิดริเริ่มสร้างสรรค์อย่างเป็นระบบ กระบวนการกลุ่มร่วมแรงร่วมใจกันระหว่าง นักเรียน กับครู สร้างนวัตกรรมเพื่อให้เหมาะสมกับบริบทของสภาพแวดล้อมในท้องถิ่นมีอยู่ คือ การสร้างสบู่จากวัสดุธรรมชาติ ในท้องถิ่นที่หาได้ง่าย และที่ไม่เพียงแค่ให้สีสันสวยงามดึงดูดความสนใจ มีกลิ่นหอม แต่ให้ประสิทธิภาพเท่าสบู่ทั่วไป มีส่วนผสมของสีธรรมชาติ ไม่มีสารเคมีเจือปน และสามารถนำไปอาบน้ำขัดผิวด้วยสรรพคุณของส่วนผสมธรรมชาติที่ผสมอยู่ในสบู่มะขามนมสดน้ำผึ้ง สามารถนำไปล้างมือด้วยกลิ่นหอมอ่อนๆในสบู่ และยังสามารถทำเป็นของที่ระลึกได้ ด้วยรูปลักษณ์ที่น่ารัก สวยงาม อีกอย่างในปัจจุบันคนส่วนใหญ่เริ่มหันมาสนใจในสมุนไพรมากขึ้น เราจะเห็นข้อแตกต่างระหว่างสบู่เคมีกับสบู่สมุนไพรได้อย่างชัดเจน เพราะจากการศึกษาพบว่าสบู่ที่ทำจากสารเคมีเมื่อใช้ไปนานๆจะทำให้มีสารเคมีตกค้างในร่างกายของเราถึงแม้ว่ามันจะทำให้เห็นผลได้เร็วก็ตาม แต่ไม่ทำให้ร่างกายปลอดภัย ต่างกับสมุนไพรซึ่งไม่มีโทษอย่างแน่นอนเพราะมาจากวัสดุธรรมชาติ หาได้เอง และที่สำคัญเราสามารถทำเองได้ด้วย จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้พวกเราจัดทำโครงงานนี้ขึ้นมา

         จุดมุ่งหมายของการศึกษาค้นคว้า
1. เพื่อเพิ่มกลิ่นหอมจากธรรมชาติ และมีสีสันสวยงาม
2. เพื่อศึกษาประโยชน์ของมะขาม นมสด น้ำผึ้ง ที่นำมาทำสบู่
3.เพื่อฝึกทักษะกระบวนการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ สร้างสรรค์งานอย่างเป็นระบบ และส่งเสริมการมี ส่วน ร่วม
4. เพื่อใช้ประโยชน์จาก มะขาม นมสด น้ำผึ้ง ให้ได้อย่างคุ้มค่ามากที่สุด
5. เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ที่สนใจในผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ
ขอบเขตของการศึกษา
1.            เนื้อสบู่ใช้แล้วที่หาได้ตามท้องถิ่น

2.            สมุนไพร เช่น มะขาม ที่สามารถหาได้ในชุมชน



บทที่ 2
เอกสารที่เกี่ยวกับโครงงาน
          มะขาม
        มะขาม ผลไม้เขตร้อน มะขาม ภาษาอังกฤษ คือ Tamarind ส่วนมะขามชื่อวิทยา ศาสตร์จะใช้คำว่า Tamarindus indica Linn. มะขาม มีต้นกำเนิดในทวีปแอฟริกา ต่อมามีการนำเข้ามาปลูกในแถบเอเชียรวมทั้งไทยด้วย โดยยังเป็นต้นไม้ประจำจังหวัดเพชรบูรณ์เมืองมะขามหวานด้วย และตามตำราพรหมชาติ ถือว่ามะขามเป็นไม้มงคลชนิดหนึ่ง ที่ช่วยป้องกันสิ่งเลวร้าย ผีร้ายต่างๆไม่ให้มากล้ำกลาย อีกทั้งยังเป็นต้นไม้ที่มีชื่อมลคล ถือกันเป็นเคล็ดทำให้มีคนเกรงขาม
สำหรับประโยชน์ของมะขามและสรรพคุณมะขามนั้นมีมากมาย และจัดว่าเป็นผลไม้เพื่อสุขภาพที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงและยังมีสรรพคุณใช้เป็นยารักษาโรคอีกด้วย โดยในส่วนที่นำมาใช้เป็นยาจะเป็นเนื้อฝักแก่(มะขามเปียก) เปลือกของลำต้น(ทั้งสดและแห้ง) และเนื้อในเมล็ด โดยสามารถช่วยรักษาได้หลายโรค เช่น เป็นยาขับเสมหะ แก้อาการท้องเดิน บรรเทาอาการท้องผูก ใช้เป็นยาถ่ายพยาธิ เป็นต้น
มะขามยังอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย อย่างวิตามินซี วิตามินบี2 วิตามินเอ ธาตุแคลเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก โปรตีน คาร์โบไฮเดรต เป็นต้น โดยมะขามที่แก่จัดนั้นเราจะเรียกว่า มะขามเปียก โดยมะขามหวาน 100 กรัม จะมีแคลอรี่เท่ากับ 314 แคลอรี่



น้ำผึ้ง
        
             น้ำผึ้ง (Honey) คือผลผลิตของน้ำหวานจากดอกไม้ และจากแหล่งอื่นๆ ที่ผึ้งงานนำมาเก็บสะสมไว้ โดยผ่านขั้นตอนการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพและทางเคมีแล้วสะสมไว้ในรังผึ้ง ซึ่งปกติแล้วน้ำผึ้งจะมีกลิ่น รส สี ที่ต่างกันออกไปตามชนิดของพืชนั้นๆ จึงทำให้สามารถระบุชนิดของน้ำผึ้งตามชนิดของพืชนั้นได้ๆ เช่น น้ำผึ้งจากดอกส้ม ดอกลำไย ดอกลิ้นจี่ ก็จะแตกต่างกันออกไปซึ่งนิยมนำมาใช้เป็นสารให้ความหวานในอาหารหรือเครื่องดื่มนานาชนิด
ประโยชน์ของน้ำผึ้ง นั้นหลากหลายเพราะน้ำผึ้งมีส่วนผสมของน้ำตาลและสารประกอบอื่นๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นฟรุกโทสกับกลูโคส และมีวิตามินและแร่ธาตุผสมอยู่ด้วย เช่น วิตามินเอ วิตามินบี2 วิตามินบี3 วิตามินบี5 วิตามินบี6 กรดโฟลิก วิตามินซี ธาตุแคลเซียม ธาตุแมกนีเซียม ธาตุโซเดียม ธาตุโพแทสเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก ธาตุทองแดง ธาตุสังกะสี เป็นต้น สำหรับสารประกอบอื่นๆที่มีอยู่ในปริมาณเพียงน้อยนิดนั้นจะเป็นสารที่ทำหน้าที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระเป็นหลัก




นมสด

นม หรือ น้ำนม (Milk)คือ ของเหลวสีขาวที่มีสารอาหารที่จำเป็นสำหรับเด็กหรือสัตว์เกิดใหม่ ที่ผลิตออกมาจากเต้านมของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม อาทิเช่น มนุษย์ วัว แพะ แกะ ควาย ม้า ลา อูฐ จามรี เรีนเดียร์ ลามา แมวน้ำ และยังรวมไปถึงเครื่องดื่มที่ใช้แทนนมด้วย เช่น นมถั่วเหลือง น้ำนมข้าว นมข้าวโพด นมแอลมอนด์ เป็นต้น
นมเหมาะกับทุกเพศทุกวัย เพราะร่างกายจำเป็นต้องได้รับสารอาหารในนมมาสร้างเสริมร่างกายให้แข็งแรงอยู่ตลอดเวลา และสำหรับหญิงตั้งครรภ์ควรดื่มนมที่มีแคลเซียมสูง ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างกระดูกทั้งมารดาและทารกในครรภ์ และนมเปรี้ยวยังช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานเป็นปกติ ขับถ่ายสะดวก ป้องกันอาการท้องผูก ช่วยลดไขมันในเส้นเลือดเสริมสร้างภูมิคุ้มกันได้อีกด้วย แต่สำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานควรรับประทานนมพร่องมันเนย หรือ นมขาดมันเนยและควรหลีกเลี่ยงนมที่มีรสหวาน
สำหรับวัยเด็ก (อายุ 1-12 ปี) ควรดื่มนม 3 แก้วต่อวัน แต่ถ้าเป็นวัยหนุ่มสาว (13-25 ปี) ควรดื่มนมวันละ 3-4 แก้ว และสำหรับผู้ใหญ่ที่มีอายุ 25 ปีขึ้นไป ควรดื่มนมไม่น้อยกว่าวัยละ 2 แก้ว ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วทุกคนควรดื่มนมไม่น้อยกว่าวันละ 2 แก้ว แต่สำหรับหญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรควรดื่มนมไม่น้อยกว่าวันละ 3 แก้ว ( 1 แก้ว เท่ากับ 200 cc เท่านมขวดขนาดเล็ก)
การดื่มนมไม่ได้ทำให้อ้วนอย่างที่หลายๆคนเข้าใจ เนื่องจากมีไขมันเพียง 3.8% ซึ่งถือว่าน้อยมากหากเทียบกับอาหารชนิดอื่นๆ แต่หากคุณกังวลเรื่องความอ้วนก็สามารถดื่มนมพร่องมันเนยหรือนมไม่มีไขมันที่มีแคลเซียมสูงๆแทนก็ได้ !
มีข้อมูลระบุว่า เด็กไทยมีความสูงต่ำกว่ามาตรฐานสากลค่อนข้างเยอะ ถ้าอยากให้เด็กไทยเจริญเติบโตอย่างเต็มศักยภาพผู้ปกครองจึงควรใส่ใจให้ลูกหลานของท่านดื่มนมอย่างเพียงพอ เพราะมันมีประโยชน์สำหรับเด็กอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งนมจืด เพราะไม่ทำให้ฟันผุและอ้วน



บทที่ 3
วัสดุ อุปกรณ์ วิธีการดำเนินงาน
              อุปกรณ์
       1.  เนื้อสบู่          
        2.  น้ำธรรมดา     
        3.  น้ำหอม  
        4.  มะขามเปียก 
        5.  นมสด 
        6.  น้ำผึ้ง 
        7.  หม้อและเตาสำหรับต้มสบู่
        8.  พิมพ์รูปแบบต่างๆ 


 วิธีทำ


ขั้นตอนการเตรียมน้ำมะขามเปียกนมสด        
               1.  มะขามเปียก กำมือแกะเอาเมล็ดและซังออกให้หมด
               2.  ใส่มะขามเปียกลงในนมสด  และขยำจนได้เนื้อครีมข้น
               3.  นำส่วนผสมที่ได้กรอกเอากากทิ้ง


ขั้นตอนการทำสบู่
               1.  นำเนื้อสบู่ที่เป็นแผ่นฝอยๆเล็กๆ  (อาจใช้เนื้อสบู่ที่เป็นแท่งมาขูดกับที่ขูดมะละกอหรือจะใช้มีดหั่นก็ได้)




                 2.ใส่น้ำสะอาดหรือนมสดลงไปและเอาตั้งเตาแก๊สเพื่อทำให้เนื้อสบู่ละลายเข้ากันได้ด




   
 3.  ติดไฟโดยใช้ไฟอ่อนๆแล้วบดให้เนื้อสบู่ละเอียดแล้วใส่น้ำมะขามเปียกนมสดที่เตรียมไว้ลงไปตามที่ต้องการ



4.            คนให้ส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันดี ให้เหลวประมาณครีมทาตัวทั่วไป






5.  กวนจนส่วนผสมทั้งหมดเข้าเป็นเนื้อเดียวกัน ปิดไฟ ยกลงจากเตา
6.  ตักส่วนผสมใส่พิมพ์ตามชอบ จะใช้น้ำมันมะกอกทาพิมพ์นิดหน่อยเพื่อให้แคะสบู่ออกจากพิมพ์ได้ง่าย




7.  พักสบู่ที่ได้ให้เนื้อสบู่แข็งตัว แคะออกจากพิมพ์
 8. จะได้สบู่นมสดมะขามเปียกนมสดตามต้องการ






บทที่ 4
ผลการวิเคราะห์ข้อมูล/ผลการจัดทำโครงงาน
          ผลการศึกษาโครงงานบูรณาการ สบู่มะขามนมสดน้ำผึ้ง รายงาน กลิ่นและสีสัน มีกลิ่นหอม สี เข้มใส  รูปร่างและเนื้อสัมผัส ไม่ค่อยแข็งเป็นก้อนและรู้ร่างแล้วแต่พิมพ์ที่ใช้ สาเหตุมาจากใส่เนื้อสบู่น้อยเกินไปแนวทางแก้ไข เพิ่มเนื้อสบู่ให้มากขึ้น



บทที่ 5
สรุปผลและอภิปรายผลการดำเนินการจัดทำโครงงาน
       สบู่ที่ทำขึ้นมีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับสบู่ยี่ห้อที่มีขายตามท้องตลาดทั่วไป สามารถทำความสะอาดได้อย่างหมดจด มีความหอมเป็นเอกลักษณ์
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากการทดลอง
         1.  ใช้ทำความสะอาดหน้า บำรุงผิวหน้าขาวเนียน ลดรอยฝ้าจุดด่างดำ
         2.  เป็นการเพิ่มรายได้หรือทำเป็นอาชีพเสริม
1.            ส่งเสริมการนำสมุนไพรหรือวัสถุดิบที่มีในท้องถิ่นมาใช้ให้เกิดประโยชน์

ข้อเสนอแนะ 

      1.  ถ้าต้องการเก็บสบู่มะขามเปียกนมสดไว้ใช้นานควรใส่สารกันราลงไปในเนื้อสบู่ด้วย
        2.  ผู้ผลิตอาจใช้พิมพ์หรือภาชนะเป็นแม่พิมพ์ที่แปลกใหม่เพื่อเป็นการดึงดูดใจให้อยากซื้อ





1 ความคิดเห็น: